หน้าเว็บ

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

วัดร่องขุ่น


   วัดร่องขุ่น 





วัดร่องขุ่น เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินของจังหวัดเชียงราย เพื่อมุ่งสร้างงานพุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองและประกาศความยิ่งใหญ่ต่อคนทั้งโลกเพื่อถวายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติในนาม "White Temple" ระยะเวลาในการสร้างนั้นไม่มีกำหนดจนกว่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งได้วางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้วทั้งลูกศิษย์ที่สานต่อและทุนทรัพย์ ประชาชนคนไทยต้องหาโอกาสสักครั้งเพื่อมาชมวัดร่องขุ่น งานพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ให้ได้
     ผมเป็นจิตรกรอาชีพ ชอบวาดรูปตั้งแต่จำความได้ ผมตั้งมั่นที่จะเป็นศิลปินเขียนรูปเพียงอย่างเดียว จึงขยันฝึกฝนตัวเองจนสามารถเรียนจบวิชาศิลปะจากสถาบันศิลปะที่มีชื่อเสียง ที่สุดของประเทศ โรงเรียนเพาะช่าง และมหาวิทยาลัยศิลปากร ผมผ่านการได้รับรางวัลที่ 1 เหรียญทองจากการประกวดผลงานศิลปะระดับชาติ เมื่อปี 2520 หลังจากนั้นไม่ส่งผลงานเข้าประกวดอีกเลย เพราะคิดว่าได้รับรางวัลไม่ใช่จุดสูงสุดในชีวิตที่ผมได้ตั้งเป้าหมายไว้
ระหว่างปี 2523 ถึงปี 2539 ผมออกเดินทางไปแสดงผลงานเพื่อหาประสบการณ์และเผยแพร่งานพุทธศิลป์ในต่าง ประเทศทั้งในเอเชีย ยุโรป และ อเมริกา โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ ผมเดินทางไปอยู่ถึง 4 ปี เพื่อเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในวัดไทย ณ กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นวัดของรัฐบาลไทย ชื่อวัพพุทธปทีป เริ่มปี 2527 ถึงปี 2531 เพื่ออุทิศเป็นพุทธบูชา แด่พระพุทธเจ้าและประเทศชาติของผม โดยไม่คิดค่าจ้าง เพราะผมปรารถนาที่จะเป็นผู้นำงานพุทธศิลป์ร่วมสมัยของชาติผมให้ชาวโลกได้ รู้จักได้สัมผัสสุนทรียภาพทางอารมณ์และปรัชญาที่แตกต่าง
ผมเรียนธรรมะของพระพุทธเจ้ามากว่า 20 ปี ผมเข้าใจสัจธรรมการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ผมฝึกฝนปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเพื่อตัดกิเลสได้มากพอควร ผมนำหลักพุทธธรรมเป็นผู้นำชีวิตให้เดินทางสายกลางทั้งภายนอกและภายใน จนประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรม
ทางโลกนั้น ผมมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและรู้จักของคนทั้งประเทศ มีนักสะสมผลงานศิลปะทั้งในและต่างประเทศหาซื้อผลงานของผม จนไม่มีในตลาดศิลปะ ทำให้หลังปี 2540 ผลงานของผมมีราคาสูงมาก และหาซื้อไม่ได้ในขณะนี้ ปี 2538 ผมได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้รับใช้ถวายงานแด่พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รับ ยิ่งของผมหลายชิ้น ส่วนในทางธรรมนั้น ผมมีจิตใจที่งดงามมากขึ้น มีความสุข จิตราบเรียบสงบไม่ฟุ้งซ่านดิ้นรนเหมือนอดีตก่อนผมรู้จักธรรมะของพระพุทธองค์ ธรรมะทำให้ผมมุ่งปรารถนาที่จะเป็นผู้ให้แก่มวลมนุษยชาติ และเป็นที่มาของการตั้งจิตมุ่งมั่นที่จะคืนชีวิตตนเองให้แก่ชาติ แก่พระศาสนา และก่ามนุษย์ทั้งโลก ผมตั้งความหวังที่จะมอบชีวิตในวัยที่มีค่าที่ดีพร้อมที่สุดของอาชีพจิตรกร ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญา ฝีมือ จินตนาการให้แก่โลกไปจวบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ผมเริ่มงานก่อสร้างตามตั้งใจไว้ถึง 3 ปี โดยการเริ่มสร้างวัดร่องขุ่น วัดบ้านเกิดของผม เมื่ออายุเพียง 42 ปี ด้วยเงินที่ผมเก็บสะสมไว้กว่า 20 ปี จากการจำหน่ายผลงานศิลปะของผม
ผมหวังที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผมให้ปรากฏเป็นงาน ศิลปะที่ยิ่งใหญ่ชิ้นหนึ่งของโลกมนุษย์นี้ให้ได้ เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของประเทศชาติของผมไปสู่มวลมนุษยชาติทั้งโลก ผมเริ่มสร้างอุโบสถก่อนเมื่อปี 2540 บนพื้นที่เดิมของวัด 3 ไร่ ผ่านมาบัดนี้ ปี 2548 เข้าปีที่ 8 ที่ผมอุทิศตน ผมขยายวัดเป็น 12 ไร่ จากการซื้อที่ดินเพิ่มและคุณวันชัย วิชญาชาคร ร่วมบริจาค
ณ เวลานี้อุโบสถเสร็จไปประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าภายนอกจะเสร็จอีก 5-6 ปีข้างหน้า ส่วนภายในซึ่งเป็นงานตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังจะใช้เวลาอีก 8-10 ปี จึงจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ ภายในบริเวณวัดจะประกอบไปด้วยอาคารที่มีลักษณะรูปทรงที่แตกต่างกันทั้งหมด 9 หลัง เพื่อสร้างให้เป็นเมืองสวรรค์อันยิ่งใหญ่อลังการ
ผมคงไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อตกแต่งลดลายเสร็จหมดทั้ง 9 หลัง เพราะศิลปะยืนยาวแต่ชีวิตสั้น เพียงผมคาดว่าโครงสร้างของสถาปัตยกรรมทั้งหมดคงจะเสร็จภายใน 3 ปี ข้างหน้า ปี 2551
หากเมื่อผมตาย คณะลูกศิษย์ที่ผมสอนไว้จะสานต่อจินตนาการของผมจนแล้วเสร็จทั้งหมด ผมได้เตรียมการบริหารจัดการหลังความตายไว้พร้อมแล้ว ท่านที่มาชมวัดแล้วอย่ากังลงใจกลัวว่าผมจะสร้างไม่สำเร็จ เพราะสาเหตุที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก และยังจำกัดจำนวนของผู้บริจาคให้ไม่เกิน 10,000 บาท เงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผม มาวันนี้ผมจ่ายไปแล้วกว่า 40 ล้านบาท ผมมั่นใจในตนเอง มั่นใจต่อจิตอันเป็นผู้ให้ของผม ขอทุกท่านอย่าได้เป็นห่วง ผมไม่ปรารถนาขอเงินใคร ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล องค์กรเอกชน หรือเศรษฐีร่ำรวย เพราะผมไม่อยากอยู่ใต้อำนาจทางความคิดของใคร ไม่ต้องการให้ใครมีอำนาจเหนือจินตนาการของผม ผมต้องการอิสรภาพทางความคิดสร้างสรรค์ ผมเชื่อว่า

"เงินจำนวนมาก ย่อมมาพร้อมอำนาจของผู้บริจาค"

ผมสร้างงานพุทธศิลป์ด้วยความศรัทธาจริตไม่ได้มุ่งหวังสิ่งใด ๆ ตอบแทน ไม่ต้องการและไม่ชอบการทำบุญเอาหน้า วัดนี้ไม่เคยเรียไรเงินด้วยกฐินผ้าป่า วัดนี้ไม่รีบร้อนสร้างเพื่อฉลองในโอกาสใด ๆ ทั้งสิ้น ผมคิดเพียงอย่างเดียว ต้องดีที่สุดสวยที่สุด สร้างจนหมดภูมิปัญญาทางโลกและทางธรรมของผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น